Chocolate Fudge Brownie ด้วยความยินดีจากใจ ให้คนรัก ^^

ขอขอบคุณบทความดีๆ เพื่อสุขภาพและการใช้ชีวิตให้มีความสุขจาก http://www.live-everymoment.com/article/content.aspx?id=42



เมนูที่ทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้านในเดือนแห่งความรักนี้ก็คงไม่พ้นช็อกโกแลตยอดฮิต แต่ในคราวนี้เรามีสูตรทำ บราวนี่ช็อกโกแลตมาฝากกันค่ะ นอกจากความอร่อยแล้วยังอิ่มใจด้วยค่ะ จะทำไว้เซอร์ไพรส์คนที่เรารักก็ดูน่ารักหวานแหววดีนะคะ Jสูตรนี้เราเน้นแป้งน้อยหนักเครื่องครบความอร่อย รับรองถูกใจแน่นอนค่ะ ^^



ดาร์กช็อกโกแลต 100 กรัม

ช็อกโกแลตชิพ 1 ถ้วยตวง

เนยเค็ม 110 กรัม

น้ำตาล 2 ถ้วยตวง

ไข่ไก่ 3 ฟอง

แป้งอเนกประสงค์ (ร่อน 3 ครั้ง) 1 ถ้วยตวง

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (คั่วแล้ว) 150 กรัม

เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา

ก่อนจะลงมือ - ร่อนแป้ง 3 ครั้ง - เตรียมพิมพ์ด้วยการทาเนยและกรุกระดาษไข - คั่วเม็ดมะม่วงฯ ให้หอม - เปิดเตาอบรอไว้ที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสค่ะ



1. หั่นช็อกโกแลตเป็นชิ้นๆ ใส่หม้อเคลือบหรือชามสแตนเลส แบ่งเนยมา 40 กรัม ใส่ลงไปในหม้อ

2. ละลายช็อกโกแลตโดยใช้ double boiler นำหม้อใส่น้ำมา 1 ใบ ต้มให้เดือด จากนั้นเอาหม้อเคลือบที่เราใส่ช็อกโกแลตวางลงไปบนปากหม้อน้ำเดือดนั้น (**อย่าให้หม้อที่ใส่ช็อกโกแลตสัมผัสกับน้ำที่เดือด ถ้าร้อนมือมาก หาตะแกรงอะไรมาเป็นตัววางหม้อใส่ช็อกโกแลตก็ได้ค่ะ**)คนไปเรื่อยๆ ใช้ความร้อนจากไอน้ำละลายช็อกโกแลตของเราจนเหลวเป็นเนื้อเดียวกับเนย เสร็จแล้วยกลงพักไว้

**อย่าเอาช็อกโกแลตไปตั้งไฟโดยตรง เพราะแทนที่จะละลาย มันจะแห้งและไหม้ค่ะ**

3. ตีเนยที่เหลือกับน้ำตาลจนกระทั่งเนยขึ้นฟูนิดหน่อย (สีอ่อนลง ปริมาณเพิ่มขึ้นเล็กน้อย) จากนั้นก็ใส่ไข่ทีละฟอง ใส่เกลือ กลิ่นวานิลลา ตีให้เข้ากัน

4. ค่อยๆ ใส่ช็อกโกแลตที่เราละลายเตรียมไว้

5. จากนั้นจึงใส่แป้ง ใช้พายยางค่อยๆ คนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ตรงนี้พยายามตะล่อมๆ เกลี่ยๆ ให้แป้งผสมเข้าไปในเนื้อครีมนะคะ อย่าคนมาก ไม่งั้นขนมเราจะออกมาเนื้อแน่นและไม่ฟูค่ะ



6. ผสมเรียบร้อยแล้วก็เทใส่ถาดขนาด 8x8 นิ้วที่ทาเนยและปูกระดาษไขรอไว้ จากนั้นก็โรยช็อกโกแลตชิพและเม็ดมะม่วงฯ ที่เราคั่วไว้แล้วตามลงไปค่ะ

7. เข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นาน 25 - 30นาที สังเกตว่าหน้าขนมจะเริ่มแห่งลง เมื่อสุกแล้วยกออกมาพักไว้บนตะแกรง อย่ารีบร้อนตัดเสิร์ฟนะคะ รอให้เย็นก่อน ไม่งั้นเนื้อจะเละไปหมดเลยค่ะ

ขอขอบคุณบทความดีๆ เพื่อสุขภาพและการใช้ชีวิตให้มีความสุขจาก http://www.live-everymoment.com/article/content.aspx?id=42