ปัญหาโลกร้อน Global warming ลองเข้ามาอ่านกันหน่อยดิปัญหาโลกร้อน Global warming ลองเข้ามาอ่านกันหน่อยดิ

ลองเข้ามาอ่านกันหน่อยนะค่ะ ปัญหาโลกร้อน Global warming
อ่านเยอะๆ หน่อยผลของโลกร้อนเข้าไปอ่านเพิ่มเองนะค่ะยกมาหน่อยนึง
สำนักข่าวดีพีเอรายงาน ว่ากว่าร้อยประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับความวุ่นวายทางการเมือง และการโยกย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน โดยปัจจุบันนี้มีคน 2,700 ล้านคนใน 46 ประเทศกำลังเผชิญความเสี่ยงอย่างใหญ่หลวงว่าจะตกอยู่ภายใต้ความขัดแย้งด้านอาวุธและสงครามเพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ส่วนอีก 56 ประเทศนั้นเผชิญกับความไร้เสถียรภาพทางการเมืองที่กระทบคนอีก 1,200 ล้านคน
ลองอ่านดูเเล้วคิดว่าโลกร้อนเป็นปัญหาใหญ่อยู่เเล้ว มีผลกระทบมากมาย ประเทศต่างๆ เดือนร้อน ข้าวของราคาเเพง ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ประเทศที่ติดกับทะเลถ้าน้ำทะเลหนุนทำให้ประชาชนต้องอพยพหนีน้ำกัน
ถ้า
+1 องศาเซลเซียส ผลที่ตามมาจะทำให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำที่รุนแรงมากขึ้น จำนวนชนิดของสัตว์ที่อพยพย้ายถิ่นเพิ่มขึ้น น้ำท่วมและพายุสร้างความเสียหายรุนแรงขึ้น และเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวบ่อยครั้ง

+2 องศาเซลเซียส 30 เปอร์เซ็นต์ของสิ่งมีชีวิตทั่วโลกล่อแหลมต่อการสูญพันธุ์ ปริมาณผลผลิตข้าวและธัญพืชในเขตร้อนมีแนวโน้มลดลง แต่ในเขตอบอุ่นกลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปะการังเกือบทั้งหมดเกิดปรากฏการณ์ฟอกขาว

+3 องศาเซลเซียส ระบบนิเวศ 15-40 เปอร์เซ็นต์ของโลกต้องปั่นป่วน เพราะวัฏจักรคาร์บอนเสียสมดุล ผลผลิตข้าวและธัญพืชในเขตร้อนและบางพื้นที่ของเขตอบอุ่นลดลง ปะการังตายเป็นวงกว้างทั่วโลก

+4 องศาเซลเซียส สิ่งมีชีวิตทั่วโลกสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ พื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่งทะเลเสียหายมากถึง 30 เปอร์เซ็นต์

และ +5 องศาเซลเซียส สถานการณ์ทุกด้านเลวร้ายลงจนถึงขีดสุด
คำตอบคือ อีก 45 ปีข้างหน้า ความเข้มข้นของคาร์บอนในชั้นบรรยากาศจะพุ่งขึ้นเป็น 600 ส่วนในล้านส่วน

ผลผลิตอาหารจากภาคเกษตรกรรมลดลง เพราะความแปรปรวนของดินฟ้าอากาศ

ผู้คนหลายล้านทั่วโลกจะขาดแคลนอาหาร จะเจ็บป่วยด้วยโรคท้องร่วง และโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ จะประสบกับคลื่นความร้อน น้ำท่วม พายุ ไฟป่า และความแห้งแล้ง

โลกร้อนจะส่งผลให้มนุษย์ทุกผู้ทุกนามในโลกใบนี้ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากยิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

"การก่อการร้ายฆ่าคนนับร้อยนับพัน แต่วิกฤตโลกร้อนจะคร่าชีวิตนับล้าน เราจึงควรทำสงครามกับโลกร้อนมากกว่าจะมัวไปสู้รบกับพวกผู้ก่อการร้าย " และ "พวกเสื้อแดง เสื้อเหลือง " (อันนี้เติมเองอ่ะ)

คำเตือนของ สตีเฟน ฮอว์คิง นักจักรวาลวิทยาและนักฟิสิกส์

เจ้าของฉายา "ไอน์สไตน์" แห่งโลกยุคใหม่

อ่านเล่นๆ นะค่ะอย่าเครียดกันล่ะ

ซิดนีย์ 31 ม.ค. – ผลการศึกษาของรัฐบาลออสเตรเลียพบว่า อุณหภูมิในนครซิดนีย์จะเพิ่มขึ้น 5 องศาเซลเซียสภายในอีก 65 ปีข้างหน้า และอาจทำให้ประชาชนในเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศเสียชีวิตปีละ 1,300 คน
รายงานขององค์การเพื่อการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแห่งเครือจักรภพ ระบุว่า อุณหภูมิเฉลี่ยในนครซิดนีย์จะเพิ่มขึ้นจาก 26 องศาเซลเซียส เป็นราว 31 องศาเซลเซียส ภายในปี 2613 ขณะที่อุณหภูมิในช่วงฤดูร้อน จากปกติที่มักสูงถึง 35 องศาเซลเซียส อาจขยับขึ้นสูงสุดถึง 7 องศาเซลเซียส
ผลจากสภาพอากาศดังกล่าว ยังเป็นที่คาดว่าการเสียชีวิตจากอากาศร้อนในคนที่มีอายุเกินกว่า 65 ปีขึ้นไปจะเพิ่มขึ้นจากอัตราเฉลี่ยปัจจุบันปีละ 176 คน เป็น 1,312 คน ภายในปี 2593 และคาดว่า ภายในปี 2613 นครซิดนีย์อาจมีสภาพแห้งแล้งเป็นเวลา 9 ปีในทุก 10 ปี ขณะที่ปัจจุบันอยู่ในอัตรา 3 ปีต่อทุก 10 ปี รายงานระบุด้วยว่า สภาพอากาศในนครซิดนีย์มีแนวโน้มอบอุ่นและแห้งแล้งขึ้น จากแนวโน้มดังกล่าวอาจทำให้คลื่นความร้อนและลมแรงขึ้น และอาจเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้. –สำนักข่าวไทย

เตือนทั่วโลกเผชิญอากาศแปรปรวนรุนแรงจากปัญหาโลกร้อน

ปารีส 2 ก.พ.- คณะผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตือนว่า
ปัญหาโลกร้อนจะทำให้สภาพอากาศทั่วโลกแปรปรวนรุนแรงขึ้น
เช่น ทำให้เกิดพายุ ฝนฟ้าคะนอง ตลอดจนคลื่นความร้อนที่รุนแรงขึ้น
จนอาจทำให้ธารน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือละลายเกือบหมดภายในอีก 40-50 ปีข้างหน้านี้
คณะผู้เชี่ยวชาญในคณะทำงานระหว่างรัฐบาล ว่าด้วยสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงของยูเอ็น
หรือไอพีซีซี ซึ่งประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์ราว 2,500 คน จากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
ทำนายว่าอุณหภูมิบนพื้นผิวโลกจะสูงขึ้นราว 1.8-4.0 องศาเซลเซียส
และระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นอีกราว 18-59 เซนติเมตร ภายในปี 2643
เนื่องจากปัญหาโลกร้อน หรือปฏิกิริยาเรือนกระจก สาเหตุจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
จากยวดยานต่าง ๆ และสารซีเอฟซีจากตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ และเครื่องทำความเย็นอื่น ๆ
นายเดวิด มิลิแบนด์ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอังกฤษ กล่าวว่า คำเตือนของคณะผู้เชี่ยวชาญยูเอ็น
ยืนยันสัญญาณอันตรายว่า ประเทศทั่วโลกอาจหมดโอกาสที่จะหลีกหนีผลกระทบจากปัญหาโลกร้อน
เร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ และกลุ่มอนุรักษ์สภาพแวดล้อมทั่วโลกต่างเรียกร้องให้ประชาคม
ระหว่างประเทศเร่งร่วมมือลดการปล่อยก๊าซ และสารที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก.
สำนักข่าวไทย

จีนสั่งแบนถุงพลาสติก

รัฐบาลจีนประกาศให้ร้านค้าทั่วประเทศเลิกใช้ถุงพลาสติกตั้งเดือนมิถุนายนหลายเดือนมาแล้ว
เพราะถุงพลาสติกมีมากเกินจำเป็น รีไซเคิลยาก สิ้นเปลืองและก่อมลพิษ
จึงขอสนับสนุนให้ประชาชนชาวจีนหิ้วตะกร้า หรือถุงผ้า ร้านไหนฝ่าฝืนจะถูกปรับ หรือยึดทรัพย์

ประเทศจีนเริ่มแล้ว ประเทศไทยเราจะเริ่มเมื่อไหร่
(คงต้องรอให้เสื้อแดง เสื้อเหลือง หมดยุคก่อนมั๊ง)

ธรรมชาติ-ฝีมือมนุษย์ สองสาเหตุ"อาร์กติก"ร้อน

การละลายของแผ่นน้ำแข็งในทวีปอาร์ติก ไม่ได้มีสาเหตุมาจากโลกร้อนเพราะ
ฝีมือมนุษย์แต่เพียงอย่างเดียว แต่ธรรมชาติยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
จนอากาศในอาร์กติกสูงขึ้นด้วย

นายรูน เกรเวอร์เซ่น นักอุตุนิยมวิทยาจากสตอกโฮล์ม ยูนิเวอร์ซิตี้ ประเทศสวีเดน
กล่าวว่า ธรรมชาติทำให้เกิดพลังงานจำนวนมากในบรรยากาศ
ซึ่งเคลื่อนที่จากทิศใต้ไปทิศเหนือบริเวณที่เรียกว่า "อาร์กติกเซอร์เคิล" นั้น
มาพร้อมกับพายุที่เกิดจากกระแสในทะเล ผนวกกับโลกร้อนจากฝีมือมนุษย์
ทำให้อุณหภูมิของอาร์กติกสูงขึ้นและน้ำแข็งละลายเร็วขึ้น
ในความเร็วที่เร็วกว่าคอมพิวเตอร์คาดไว้

จากการศึกษาทวีปอาร์กติกเมื่อช่วงฤดูร้อนของปีที่แล้ว พบว่า
แผ่นน้ำแข็งในช่วงฤดูร้อนมีขนาดเล็กลงมาก โดยลดลงกว่าพ.ศ.2549 ถึง 23%
ส่วนแผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์ลดลง 19,000 ล้านตันเมื่อเทียบกับปีเดียวกัน
เมื่อน้ำแข็งน้อยลง ทำให้ทวีปนี้สะท้อนแสงอาทิตย์กลับน้อยลงด้วย อากาศจึงร้อนขึ้น